แคนนอนได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของบริษัทที่มีการจดสิทธิบัตรสหรัฐอเมริกามากที่สุด
เป็นปีที่ 41 ติดต่อกันสูงสุดอันดับหนึ่งในกลุ่มสัญชาติญี่ปุ่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 20
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 บริษัทแคนนอน อิงค์ ได้ประกาศว่า จากการจัดอันดับปี 2567 ของบริษัท IFI CLAIMS Patent Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา แคนนอนมีจำนวนสิทธิบัตรที่จดทะเบียนกับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (USPTO) สูงสุดเป็นอันดับที่เก้า และได้รับการจัดให้อยู่ในสิบอันดับแรกของโลกที่มีสิทธิบัตรอยู่ในการครอบครองมากที่สุดต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 41 ยิ่งไปกว่านั้น แคนนอนยังครองอันดับหนึ่งในกลุ่มบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นเป็นปีที่ 20 ติดต่อกันอีกด้วย
แคนนอนไม่เพียงให้ความสำคัญกับการได้รับสิทธิบัตรในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้รับสิทธิบัตรในต่างประเทศด้วย โดยเน้นส่งเสริมการยื่นขอสิทธิบัตรที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของแต่ละภูมิภาค ตลอดจนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและแนวโน้มของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่เป็นศูนย์รวมของบริษัทเทคโนโลยีชั้นสูงจำนวนมากและมีขนาดตลาดที่ใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับการขยายธุรกิจและพันธมิตรด้านเทคโนโลยี
15 อันดับแรกของบริษัทที่ได้รับสิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาจำนวนมากที่สุดในปี 2567*
Rank | Patent holder | Number of patents |
---|---|---|
1 | Samsung Electronics Co Ltd | 6,377 |
2 | Taiwan Semiconductor Manufacturing Co TSMC Ltd | 3,989 |
3 | Qualcomm Inc | 3,422 |
4 | Apple Inc | 3,082 |
5 | Huawei Technologies Co Ltd | 3,046 |
6 | LG Electronics Inc | 2,768 |
7 | Samsung Display Co Ltd | 2,596 |
8 | International Business Machines Corp | 2,465 |
9 | Canon Inc | 2,329 |
10 | Google LLC | 2,054 |
11 | Intel Corp | 1,931 |
12 | BOE Technology Group Co Ltd | 1,870 |
13 | Micron Technology Inc | 1,796 |
14 | Toyota Motor Corp | 1,779 |
15 | Microsoft Technology Licensing LLC | 1,707 |
* จำนวนสิทธิบัตรอ้างอิงตามข้อมูลที่เผยแพร่โดย IFI CLAIMS Patent Services (ณ วันที่ 15 มกราคม 2568)
แคนนอนมีเป้าหมายที่จะใช้ผลงานทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อเพิ่มมูลค่าขององค์กรด้วยการสนับสนุนวิวัฒนาการของการบริหารและธุรกิจไปพร้อมกับการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อคาดการณ์แนวโน้มทางสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต แคนนอนไม่เพียงแต่จะมุ่งเน้นการได้มาซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับความสามารถทางธุรกิจหลักเท่านั้น แต่ยังทุ่มเททรัพยากรจำนวนมากเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถรองรับการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงเทคโนโลยีที่สามารถปรับใช้ได้หลากหลาย เช่น AI และ IoT มาตรฐานอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม และเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ แคนนอนมุ่งมั่นที่จะเร่งการขยายธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากผลงานทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันในสถานการณ์ปัจจุบันและเสริมสร้างความยืดหยุ่นเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต พร้อมทั้งสร้างรายได้จากการอนุญาตให้ใช้สิทธิในสิทธิบัตรเพื่อชดเชยต้นทุนด้านการวิจัยและพัฒนา
แคนนอนยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนธุรกิจขององค์กร มอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดีขึ้น